จากนั้นทั้งคู่ไม่ค่อยมีโอกาสลุ้นยิงประตูแบบจะแจ้งนัก ทำให้ครึ่งแรกยังเสมอกันอยู่ 0-0 ครึ่งหลังนาที 68 เลโอนาร์โด โบนุชชี วางบอลยาวขึ้นหน้าให้ จาโคโม ราสปาโดรี ใช้เท้าเกี่ยวบอลลง ก่อนโยกหาจังหวะแล้วยิงในพื้นที่เขตโทษเสียบตาข่าย อิตาลีนำ 1-0

นาที 77 โอกาสเป็นของอังกฤษ แฮร์รี เคย ได้บอลทางริมด้านขวาของเขตโทษแล้วสับไกยิงทั้งแบบนั้น จานลุยจิ ดอนนารุมมา ทุบออกมาเข้าทางเคนยิงซ้ำอีกที ดอนนารุมมาก็ยังเซฟได้อีก

นาที 85 อิตาลีเกือบทิ้งห่าง จอร์จินโญ แทงบอลขึ้นหน้าให้ มานาโล กับเบียดินี หลุดเข้าถึงเขตโทษแล้วสับไกยิงติดนายทวาร หลังจากนั้นอึดใจเดียว เฟเดริโก ดิมาร์โก เตะแบบกึ่งยิงกึ่งผ่านจากทางด้านซ้ายของเขตโทษ ลูกพุ่งเรียดไปชนเสาสอง จบเกมอิตาลีชนะ 1-0

ส่วนอีกคู่ “อินทรีเหล็ก”เยอรมนี เปิดสนามเรดบูลล์ อารีนา พ่ายต่อ “แม็กยาร์”ฮังการี 0-1 ทีมเยือนได้ประตูชัยจาก อดัม ซาไล นาที 17 เป็นความพ่ายแพ้นัดแรกในการคุมเยอรมนีของ ฮันซี ฟลิก อีกด้วย ทำให้ผ่าน 5 นัด ฮังการีนำจ่าฝูง (10 คะแนน) ตามด้วยอันดับ 2 อิตาลี (8 คะแนน) ทั้งคู่ต้องไปแย่งเข้ารอบชิงแชมป์ในแมตช์สุดท้าย ส่วนอันดับ 3 เยอรมนี (6 คะแนน) ไม่มีลุ้นอะไรแล้ว ขณะที่อันดับ 4 อังกฤษ (2 คะแนน) ตกชั้นสู่ลีกบีในฤดูกาลหน้า